ประวัติความเป็นมา
ช่างซุ่ย หรือนายพชร พงศกรรังศิลป์ เป็นช่างตีเหล็ก ประสบการณ์การทำมีดกว่า 40 ปี ได้รับการสืบทอดภูมิปัญญาการทำมีด จากบิดา คือนายจั้นกว้าน แซ่กว้าน ช่างซุ่ยเป็นรุ่นที่ 4 ที่สืบทอดการตีเหล็กจากบรรพบุรุษ เดิมทีเขาตีมีดสำหรับใช้ในการเกษตร เช่น มีดตัดอ้อย มีดตัดไม้ มีดโต้ ขวาน และ มีดต่างๆ จนไปถึงมีดที่มีขนาดใหญ่มากเช่นมีดหันใบยาสูบ จะต้องใช้การตีเชื่อมประสานของเหล็กหลายชิ้นเข้าด้วยกัน
ผลงานที่สร้างความภาคภูมิใจทีสุดในชีวิตการตีมีด คือการทำมีดเหล็กลายหรือ Clad Damascus เป็นคนแรกและคนเดียวในประเทศ จุดเริ่มต้นที่เขามาสนใจงานประเภทศิลปะบนใบมีดสืบเนื่องจาก ครั้งหนึ่งได้มีชาวอเมริกันคนหนึ่งชื่อ มิสเตอร์ฟรานซิส บอย เขาเป็นช่างตีเหล็กเหมือนกัน มาเที่ยวที่เตา มาดูวีธีการ และเขาให้ดูรูปทรงมีดต่างๆ และเนื้อเหล็กที่มีลวดลายบนใบมีดหรือมีดดามัสกัส โดยเฉพาะดาบญี่ปุ่น(katana)
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ช่างซุ่ยเริ่มค้นคว้า ทดลอง การทำมีดเหล็กลาย อย่างจริงจัง โดยส่วนหนึ่งศึกษาจากหนังสือ งานโลหะกรรมพื้นบ้านของทีมงานวิจัยโดยอาจารย์พิชัย แก้วขาว กว่าจะประสบผลสำเร็จคิดค้นในการเลือกใช้เหล็กและการเชื่อมประสานเนื้อเหล็กหลายๆชิ้นเข้าด้วยกันโดยไม่ให้มีช่องระหว่างชั้นของเหล็ก จะต้องใช้ ประสบการณ์ ทักษะความความรู้ ความชำนาญ และ ความอดทนอย่างสูง จึงสามารถค้นพบเคล็ดลับในการทำมีดเหล็กลาย ได้สำเร็จ
ผลงานในยุคเริ่มแรก รูปทรงมีด ลวดลาย และเนื้อของเหล็กที่ทำมีดเป็นเหล็กลายอย่างเดียว ทำให้ในการใช้งานไม่ดีนัก ส่วนของคมของมีด มีส่วนของเหล็กอ่อน ทำให้ความคมของมีดไม่คม ทน ดังนั้นช่างซุ่ยจึงได้พัฒนาต่อมาโดยใช้เหล็กกล้า สอดไส้เป็นแกนกลาง และตีเชื่อมประสาน เรียกว่า Clad Damascus เพื่อเวลาใช้งานมีดมีความคมทน แข็ง และ พัฒนารูปแบบ รูปทรง ให้มีหลากหลาย ความสวยงาม มากขึ้น และเรายังมีการพัฒนาการออกแบบมีด ด้ามมีดและซอง ให้มีความประณีต สวยงามมากขึ้น ด้วยเราเอง โดยเรามีผู้รู้คอยให้ความรู้ ให้คำปรึกษา และ ช่วยเหลือให้ข้อมูล สอนวีธีการทำด้ามมีด และออกแบบรูปทรง โดยเฉพาะ ลุงอู๊ด ร้านลายแทง หรือ คุณสิริพงษ์ ถนอมมณีช่วง ดังนั้น ที่เราสามารถสร้างสรรค์ผลงานจนถึงทุกวันนี้ได้ เพราะเรามีเพื่อนดีๆที่ให้คำแนะนำ และ ที่สำคัญเรามีลูกค้าที่ดีๆทุกท่านที่ให้การสนับสนุนผลงานฝีมือคนไทย